คู่กรรม / Digital 2D
ครั้งหนึ่ง...เหตุการณ์ต่อไปนี้ได้เคยเกิดขึ้นจริงๆ ในปี พ.ศ. 2485
สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้น
ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2508 นักเขียนนามว่า ทมยันตี (1) ได้เดินทางไปเยือน
สุสานทหารสัมพันธมิตร ดอนรัก ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต จังหวัดกาญจนบุรี
สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้าง
ทางรถไฟสายมรณะ สุสานแห่งนี้บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 หลุม
บรรยากาศความเงียบสงบบริเวณรอบๆ
สู่สานได้ทำให้ทมยันตีจินตนาการไปถึงภาพความโหดร้ายของสงคราม
ที่นำความทุกข์ใจมาสู่เหล่าทหาร
ให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเพื่อมาทำหน้าที่ในสนามรบ
กระทั่งตอนที่สิ้นลมหายใจ ร่างกายของพวกเขาก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย
ประกอบกับทมยันตีได้เห็นโปสการ์ดใบหนึ่งที่ผูกติดมากับช่อดอกไม้
ซึ่งวางอยู่บนหลุมฝังศพและบันทึกบทกวีบทหนึ่งไว้ มีใจความว่า
“เธอคือ...แสงสว่างแห่งชีวิตที่อุบัติขึ้น และบัดนี้
แสงสว่างนั้นได้ดับลงแล้ว ฝากรอบจูบและหยดน้ำตา มากับกลีบกุหลาบทุกกลีบ”
ทมยันตีจึงได้นำแรงบันดาลใจนี้
มาเนรมิตเรื่องราวความรักให้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว
ก่อเกิดเป็นนวนิยายเรื่องยาวที่ชื่อว่า คู่กรรม โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญว่า
เมื่อเกิด ‘ความรัก’ ขึ้นท่ามกลางสงคราม ระหว่างหญิงสาวชาวไทยนามว่า
อังศุมาลิน และทหารญี่ปุ่นนามว่า โกโบริ
ความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติและเหตุผลทางการเมือง ก็อาจผันเปลี่ยนเป็น
‘รักต้องห้าม’ ไปได้
ผลงานวรรณกรรมเรื่อง คู่กรรม ได้รับการตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารศรีสยาม
(2) โดยได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้อ่าน
เนื้อหาว่าด้วยความรักต้องห้ามระหว่างอังศุมาลินและโกโบริ
อีกทั้งยังมีฉากหลังเป็นภาพสงครามที่อิงมาจากประวัติศาสตร์จริงๆ
จึงไม่แปลกที่จะชวนให้ผู้อ่านติดตามอย่างเหนียวแน่นตลอดเวลาที่พิมพ์ใน
นิตยสาร ก่อนที่ในปีพ.ศ. 2512 คู่กรรม
ได้รับการนำมารวมเล่มเป็นครั้งแรกและได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน
จนทมยันตีได้ประพันธ์ คู่กรรม 2 ซึ่งเป็นภาคต่อ
ว่าด้วยเรื่องราวของลูกชายอังศุมาลินที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความขัดแย้ง
ระหว่างเชื้อชาติ โดย คู่กรรม
ทั้งสองภาคได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งบทประพันธ์ คู่กรรม ก็ได้รับการตีความ
เพื่อนำมาเล่าใหม่ในศาสตร์ภาพยนตร์ถึง 3 ครั้ง ในยุคสมัยที่แตกต่างกัน
ซึ่งแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
และในปี พ.ศ. 2556 เริ่มมีกระแสข่าวเป็นที่จับตามองจากทุกๆ สื่อ
หลังจากมีการประกาศจากค่าย M๓๙ ว่าจะมีการสร้าง คู่กรรม ใหม่อีกครั้ง
โดยมีพระเอกละครที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุด ณ เวลานี้อย่าง ณเดชน์
คูกิมิยะ (5) มารับบทเป็น โกโบริ สมทบกับนางเอกใหม่ อรเณศ ดีคาบาเลส (6)
สาวน้อยวัย 18 ปี เจ้าของแววตาใสซื่อ
ที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาเหรียญทองแบดมินตันเยาวชนแห่งชาติ มารับบทเป็น
อังศุมาลิน
พร้อมด้วยการตีความจากบทประพันธ์ครั้งใหม่จากผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์ในการ
กำกับเฉพาะตัวอย่าง กิตติกร เลียวศิริกุล ส่งผลให้การสร้าง คู่กรรม
ครั้งใหม่นี้อาจสร้างปรากฏการณ์ใหม่
ให้ผู้ชมจดจำภาพตำนานรักข้ามชาติในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม
กองทัพญี่ปุ่นได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานทัพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในเขตพระนครของกรุงเทพฯ
เนื่องจากประเทศไทยได้เซ็นสัญญาร่วมรบกับกองทัพญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตร
และประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
หากผู้ใดฝ่าฝืนจำต้องได้รับโทษ
ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับกฎหมายข้อบังคับของรัฐบาล
No comments:
Post a Comment